Nothing Special   »   [go: up one dir, main page]

ข้ามไปเนื้อหา

โรมิโอ × จูเลียต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรมิโอ × จูเลียต
ロミオ×ジュリエット
ชื่อภาษาอังกฤษRomeo x Juliet
แนวแฟนตาซี, โรแมนติก, ดราม่า
อนิเมะ
กำกับโดยฟุมิโตะชิ โอะอิซะคิ
สตูดิโอกอนโซ
มังงะ
เขียนโดยวิลเลียม เชกสเปียร์ (เนื้อเรื่องดั้งเดิม)
COM (วาดภาพ)
สำนักพิมพ์ญี่ปุ่น สำนักพิมพ์คาโดะคะวะ

โรมิโอ × จูเลียต (ญี่ปุ่น: ロミオ×ジュリエットโรมาจิRomio x Jurietto ทับศัพท์จาก Romeo x Juliet) เป็นอนิเมะฉายทางโทรทัศน์ โดยอาศัยเค้าโครงจากบทละครเรื่องโรมีโอและจูเลียต ของวิลเลียม เชกสเปียร์ เริ่มฉายตอนแรกวันที่ 4 เมษายน 2550 และฉายจบวันที่ 26 กันยายน 2550 มีทั้งหมด 24 ตอน

เนื้อเรื่อง

[แก้]

ในยามค่ำคืนวันหนึ่งที่ลมพายุพัดกระหน่ำ ณ นครลอยฟ้าเนโอเวโรนา ผู้นำแห่งตระกูลมองตากิวได้ทำการยึดอำนาจจากคาปูเล็ตเจ้าเมืองเดิมและสังหารล้างตระกูล เหลือเพียงจูเลียตบุตรีวัยเด็กเท่านั้นที่หนีรอดไปได้พร้อมกับข้ารับใช้จำนวนหนึ่ง สิบสี่ปีต่อมา จูเลียตที่ปลอมตัวเป็นชายมาตลอดก็จำเป็นจะต้องทำการเข้ายึดตำแหน่งเจ้าเมืองกลับคืน และมอบอำนาจให้แก่ประชาชนชาวเนโอเวโรนาทุกคน แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดคือ จูเลียตพบรักกับโรมิโอบุตรชายของศัตรูอย่างมองตากิว มีเพียงโชคชะตาอันน่าเศร้าเท่านั้นที่รอคอยพวกเขาอยู่

ตัวละคร

[แก้]

คาปูเล็ต

[แก้]
จูเลียต (ญี่ปุ่น
ジュリエットโรมาจิJuliet)
สายเลือดสุดท้ายแห่งตระกูลคาปูเล็ต ชื่อเต็มคือ จูเลียต เฟียมมาตตา อาส เดอ คาปูเล็ต(Juliet Fiammatta Asu de Capulet) ใช้ชีวิตในฐานะเด็กชายที่ชื่อ โอดิน มาตลอดเพื่อหนีจากการตามล่าของมองตากิว นอกจากนี้ยังมีฝีมือดาบเป็นเลิศ จึงช่วยเหลือผู้คนที่ถูกข่มเหงภายใต้นามของ 'ลมหมุนสีแดง' (赤い旋風 ; akaikaze) โดยสวมหมวกและผ้าคลุมแดงอันเป็นสีประจำตระกูล และคาดหน้ากากสีดำปกปิดหน้าตาด้วย
ในตอนแรกนั้น จูเลียตไม่มีความทรงจำในค่ำคืนที่บิดาของเธอถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดเลย ทั้งยังไม่ติดใจสงสัยว่าทำไมตนต้องแต่งตัวเป็นชายด้วย และความจริงเกี่ยวกับสายเลือดก็ถูกเปิดเผยในวันเกิดครบสิบหกปีของเธอนั่นเอง ทำให้จูเลียตนึกถึงคืนนั้นได้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ปรารถนาจะแก้แค้นแต่อย่างใด
จูเลียตได้พบกัยโรมิโอครั้งแรกในขณะที่เธอกำลังหนีการตามล่าของพวกเจ้าหน้าที่ ในตอนนั้นเธออยู่ในคราบของลมหมุนสีแดง แต่โรมิโอกลับช่วยเธอเอาไว้ และเมื่อพบกันอีกครั้งที่งานเต้นรำ จูเลียตก็เริ่มมีใจให้กับโรมิโอ ทั้งสองได้แนะนำตัวต่อกันในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไอริส แต่ภายหลังจูเลียตก็ได้รู้ความจริงที่ว่าโรมิโอเป็นบุตรชายของมองตากิวในตอนที่เธอกำลังจะไปช่วยลานสลอต
หลังการตายของลานสลอต จูเลียตพยายามหนีจากโรมิโอ แต่ในงานเทศกาลดอกไม้ ทั้งสองก็มอบจุมพิตแก่กันเป็นครั้งแรก จูเลียตเลิกใช้ชีวิตในฐานะโอดิน และมุ่งมั่นจะโค่นล้มอำนาจของมองตากิวเพื่อคืนรอยยิ้มให้แก่ประชาชนชาวเนโอเวโรนาทุกคน
เมื่อโรมิโอช่วยจูเลียตไว้ ทั้งสองก็หนีออกจากเนโอเวโรนา ไปยังหมู่บ้านร้าง ทั้งสองสาบานต่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่จูเลียตได้เห็นรากของต้นไม่ใหญ่เอสคาลัส และเธอรู้สึกได้ว่าตนมีอะไรบางอย่างเชื่อมกับต้นไม้นั้น ภายหลังทั้งสองถูกจับกุม จูเลียตหนีไปได้ เธอได้พบกับเฮร์ไมโอนีและได้รู้ถึงอดีตของติบอลท์
จูเลียตพบกับโรมิโออีกครั้งที่หมู่บ้านที่โรมิโอพยายามฟื้นฟูขึ้นใหม่ หลังจากนั้นจูเลียตก็กลับสู่เนโอเวโรนาในคราบลมหมุนสีแดงอีกครั้ง แต่ทหารคนหนึ่งยิงธนูไปโดนหมวกของเธอ ตัวตนที่แท้จริงของเธอจึงถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน และประชาชนส่วนมากต่างสนับสนุนจูเลียตในการโค่นอำนาจของมองตากิว
จูเลียตได้รับรู้จากโอฟีเลียว่าเอสคาลัสนั้น จำเป็นต้องได้รับพลังจากสายเลือดของคาปูเล็ต มิฉะนั้นเอสคาลัสจะไม่อาจค้ำจุนโลกนี้ได้อีกต่อไป จูเลียตจึงคิดจะเสียสละตนเองเพื่อรอยยิ้มของทุกคน โดยที่เธอไม่ได้บอกกับใครนอกจากติบอลท์ ภายหลังเมื่อมองตากิวถูกสังหารด้วยฝีมือของเมอร์คิวชิโอแล้ว จูเลียตก็ไปยังเอสคาลัส แต่โรมิโอตามไปขัดขวาง ทั้งสองต่อสู้กันแล้วก็เข้าใจกันในที่สุด แต่จูเลียตไม่อาจขัดขืนโอฟีเลียได้จึงถูกเอสคาลัสห่อหุ้มเอาไว้ โรมิโอที่ตามไปช่วยตะโกนเรียกจูเลียตอย่างสุดเสียง และเมื่อโรมิโอจัดการโอฟีเลียได้แล้ว จูเลียตก็ฟื้นขึ้นมา แต่โรมิโอที่บาดเจ็บสาหัสนั้นสิ้นใจในอ้อมแขนของเธอ จูเลียตจึงใช้พลังที่มีช่วยปกป้องชาวเนโอเวโรนาทุกคน และเธอก็ได้อยู่กับโรมิโอตลอดไปตามคำสาบาน
หัวหน้าตระกูลคาปูเล็ต (ญี่ปุ่น
キャピュレットโรมาจิLord Capulet)
บิดาของจูเลียต ถูกสังหารโดยมองตากิวเมื่อสิบสี่ปีก่อน

กลุ่มพันธมิตรคาปูเล็ต

[แก้]
คอร์เดเลีย (ญี่ปุ่น
コーディリアโรมาจิCordelia)
เพื่อนที่ดีและเป็นคนคอยดูแลจูเลียตมาตลอดตั้งแต่เด็ก เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากการสังหารล้างตระกูลคาปูเล็ตเมื่อสิบสี่ปีก่อน ญาติของเธอถูกสังหารไปจนหมด เหตุผลที่จูเลียตไว้ผมยาวก็เป็นเพราะคอร์เดเลียชอบ ภายหลังได้แต่งงานกับเบนโวลิโอ เธอมอบช่อดอกไม้แต่งงานให้กับจูเลียตและปรารถนาให้ทั้งโรมิโอและจูเลียตได้มีความสุข ในตอนท้ายของเรื่องเธอมีบุตรกับเบนโวลิโอ ส่วนชื่อของคอร์เดเลียนั้น น่าจะมาจากบทประพันธ์ของเชกสเปียร์เรื่อง คิงเลียร์ นั่นเอง
คอนราด (ญี่ปุ่น
コンラッドโรมาจิConrad)
คอนราดเป็นผู้ที่ช่วยจูเลียตและคอร์เดเลียออกมาเมื่อสิบสี่ปีก่อน เป็นผู้คอยปกป้องดูแลจูเลียตจนกระทั่งเมื่อเธอมีอายุสิบหกปี เขาเองที่เป็นคนเปิดเผยเรื่องสายเลือดของเธอและมอบดาบประจำตระกูลให้
ฟรานซิสโก (ญี่ปุ่น
フランシスコโรมาจิFrancisco)
เป็นเพื่อนสนิทกันกับคิวริโอ เป็นคนฉลาดและเชี่ยวชาญอาวุธโจมตีระยะไกลโดยเฉพาะธนู แอบติดต่อกับติบอลท์อย่างลับๆเพื่อขอให้ช่วยเหลือจูเลียต ทั้งยังยอมรับความรักของโรมิโอกับจูเลียตด้วย แม้คิวริโอจะสงสัยความรู้สึกที่ฟรานซิสโกมีต่อจูเลียต แต่ฟรานซิสโกยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเพียงความภักดีต่อคาปูเล็ตเท่านั้น ในตอนจบเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภาในเนโอเวโรนา
คิวริโอ (ญี่ปุ่น
キュリオโรมาจิCurio)
เพื่อนสนิทของฟรานซิสโก เชี่ยวชาญวิชาดาบ เป็นคนที่สอนดาบให้กับจูเลียต ดวงตาข้างขวาบอดเพราะในอดีตได้ช่วยเหลือจูเลียตไว้จากพวกคาราบินีรี่ ในตอนจบได้มีร้านขายผลไม้เป็นของตัวเอง
อันโตนิโอ (ญี่ปุ่น
アントニオโรมาจิAntonio)
หลานชายของคอนราด เป็นผู้คอยช่วยเหลือจูเลียตหรือลมหมุนสีแดงอยู่เสมอ บางทีก็ช่วยงานในโรงละครของวิลเลียมด้วย อันโตนิโอไม่รู้ว่าที่จริงแล้วจูเลียตเป็นผู้หญิงจนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผยในวันเกิดครบสิบหกปีของจูเลียต
ติบอลท์ (ญี่ปุ่น
ティボルトโรมาจิTybalt)
ติบอลท์เป็นคนที่มักปรากฏตัวอย่างลึกลับและคอยช่วยเหลือคาปูเล็ตเสมอ ไม่เคยมีความลังเลในการสังหาร เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ตัวจริงของจูเลียตก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดเผย ภายหลังเขาได้เล่าเรื่องของตนเองให้จูเลียตได้รับรุ้ว่าอันที่จริงแล้วเขาเป็นลูกนอกสมรสของมองตากิว จึงนับว่าเป็นพี่น้องรว่มบิดากับโรมิโอ มารดาของติบอลท์เป็นหนึ่งในตระกูลคาปูเล็ต แต่ถูกมองตากิวหลอกใช้เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับเอสคาลัส ภายหลังเมื่อมองตากิวไปสมรสกับเลดี้พอร์เทีย มารดาของติบอลท์ก็ส่งเขาไปอยู่กับตระกูลคามิโล
ในตอนหลัง ติบอลท์เป็นคนแรกที่รู้เรื่องโชคชะตาอันแสนเศร้าของจูเลียตที่ต้องมอบพลังให้เอสคาลัส และเป็นคนแรกที่ไปพบมองตากิวก่อนที่จูเลียตและพรรคพวกจะไปถึง เขาเปิดตัวตนที่แท้จริงแก่มองตากิวและถามหาเอสคาลัสเพื่อช่วยเหลือจูเลียต แต่ยังไม่ทันได้คำตอบโรมิโอก็เข้ามาเสียก่อน และเมื่อเมอร์คิวชิโอสังหารมองตากิวแล้ว ติบอลท์ก็ได้แต่ขว้างดาบไปปักตราประจำตระกูลมองตากิวที่เก้าอี้เท่านั้น
ติบอลท์เปิดเผยตัวเองแก่โรมิโอเมื่อโรมิโอไปเฝ้าดูศพของบิดา ทั้งยังบอกเรื่องโชคชะตาของจูเลียตด้วย ในตอนจบติบอลท์ได้พาเด็กๆที่น่าจะเป็นน้องของเพทรูชิโอขี่ชิเอโลริวบะของโรมิโอ และบอกกับเด็กๆว่าชิเอโล่นั้นเป็นของน้องชายของเขาเอง
เอมิเลีย (ญี่ปุ่น
エミリアโรมาจิEmilia)
นักแสดงในโรงละครของวิลเลียมและเป็นเพื่อนที่ดีต่อจูเลียต แต่ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของจูเลียต คิดว่าจูเลียตคือเด็กผู้ชายที่ชื่อโอดินมาตลอด เป็นคนชวนจูเลียตไปงานเต้นรำ ชื่อของเธอน่าจะมาจากบทประพันธ์ของเชกสเปียร์เรื่อง โอเทลโล
วิลเลียม (ญี่ปุ่น
ウィリアムโรมาจิWilliam)
กวีตกอับชื่อเล่นว่า วิลลี่ คนนี้ก็คือตัวละครล้อเลียนวิลเลียม เชกสเปียร์นั่นเอง โรงละครของวิลเลียมนั้นเป็นที่พักและที่ซ่อนตัวของจูเลียตและพรรคพวก ที่วิลเลียมยอมให้คนกลุ่มนี้อาศัยอยู่พราะเขาต้องการจะเขียนบทละครที่เป็นโศกนาฏกรรมนองเลือดขึ้นมา
แอเรียล (ญี่ปุ่น
エアリエルโรมาจิAriel)
มารดาของวิลเลียม เพื่อนเก่าของคอนราด และเป็นผู้ที่รู้ตัวตนของจูเลียตด้วย เป็นคนเสนอที่พักในแมนทัวให้กับจูเลียตที่หนีการตามล่าของมองตากิวอยู่
บัลทาซาร์ (ญี่ปุ่น
バルサザーโรมาจิBalthazar)
คนรับใช้ของเอเรียลในแมนทัว
เรแกน (ญี่ปุ่น
リーガンโรมาจิRegan)
หลานสาวของบัลทาซาร์
ลานสลอต (ญี่ปุ่น
ランスロットโรมาจิLancelot)
แพทย์ผู้ใจดีและเสียสละตนเองเพื่อช่วยจูเลียตด้วยการแต่งตัวเป็นลมหมุนสีแดงแล้วหลอกล่อพวกทหารให้เผาตนเองเสีย โดยฝากความหวังที่จะช่วยชาวเนโอเวโรนาไว้กับจูเลียต

มองตากิว

[แก้]
โรมิโอ (ญี่ปุ่น
ロミオโรมาจิRomeo)
ไฟล์:โรมิโอ.jpg
โรมิโอ
ชื่อเต็มคือ โรมิโอ คานโดเร วาน เดอ มองตากิว (Romeo Candore Van de Montague) บุตรชายของลาเออร์เทส มองตากิวและเลดี้พอร์เทีย เป็นผู้ที่จะสืบทอดสมบัติและตำแหน่งผู้ครองเมืองต่อจากบิดา นอกจากนี้ยังเป็นน้องชายต่างมารดาของติบอลท์ด้วย อุปนิสัยของโรมิโอนั้นแตกต่างจากบิดาอย่างมาก โรมิโอเป็นคนอ่อนโยน จิตใจดี โรมิโอมีริวบะเป็นของตนเองชื่อว่าชิเอโล ซึ่งภายหลังได้ปล่อยไป และติบอลท์ไปพบเข้าในตอนจบ เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง โรมิโอจำเป็นต้องหมั้นกับเฮอร์ไมโอนี หญิงสาวในตระกูลผู้ดีคนหนึ่ง แม้ว่าโรมิโอจะมีใจชอบพอกับจูเลียตแล้วก็ตาม ภายหลังแม้เขาได้รู้ว่าจูเลียตเป็นบุตรีของคาปูเล็ต โรมิโอก็ยังคงไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่มีต่อจูเลียตได้
หลังจากเบนโวลิโอบอกว่าครอบครัวของเขาจะถูกขับไล่ออกจากเนโอเวโรนาและโรมิโอได้เห็นติบอลท์กอดจูเลียตนั้น เขาก็เริ่มหมดหวังในความรัก และเมื่อได้พบจูเลียตอีกครั้งเขาเองก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาใหม่ ทั้งสองหนีออกจากเนโอเวโรนาด้วยกัน สาบานรักต่อกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่าง

สงบสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะถูกจับในที่สุด

โรมิโอถูกเนรเทศไปยังเหมืองแกรนเดีย โรมิโอได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากที่นี่ ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เหมืองถล่มอย่างรุนแรง โรมิโอก็ได้ปลดปล่อยให้ชาวเหมืองทุกคนเป็นอิสระ และพาทุกคนไปช่วยกันฟื้นฟูหมู่บ้านที่เขาและจูเลียตเคยมาอาศัยอยู่ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับจูเลียตอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อได้ข่าวคราวความวุ่นวายในเนโอเวโรนา โรมิโอตัดสินใจกลับไปยังที่นั่นเพื่อเจรจากับบิดา โรมิโอได้ต่อสู้กับเมอร์คิวชิโอ เขาได้พบจูเลียตแต่ก็ได้เพียงกอดเธอแล้วไปหามารดาเพื่อขออภัยที่จะต่อสู้กับบิดา โรมิโอไปหาบิดาและพบว่าติบอลท์ก็อยู่ที่นั่น เขาเรียกบิดาของตนเองว่าเจ้าเมืองและเข้าประดาบกัน หลังจากบิดาของเขาถูกสังหาร โรมิโอคุกเข่าต่อหน้าจูเลียตและยกย่องเธอในฐานะเจ้าเมืองคนใหม่ ส่วนเขาเองตั้งใจว่าจะกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง
โรมิโอได้รู้ว่าติบอลท์เป็นพี่ชายและรู้ความจริงเกี่ยวกับเอสคาลัส เขาจึงไปช่วยจูเลียตและได้ต่อสู้กับจูเลียต สุดท้ายโรมิโอได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้กับโอฟีเลียเและสิ้นใจในอ้อมกอดของจูเลียตนั่นเอง
หัวหน้าตระกูลมองตากิว (ญี่ปุ่น
モンタギューโรมาจิLord Montague)
ชื่อเต็มคือ ลาเออร์เทส มองตากิว หลังจากยึดอำนาจมาจากคาปูเล็ตแล้วก็ขึ้นเป็นเจ้าเมืองคนใหม่และปกครองเมืองอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี เขาอ้างว่ายึดอำนาจจากคาปูเล็ตเพราะมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้น มองตากิวปฏิบัติต่อโรมิโออย่างเย็นชาและมองว่าบุตรชายมีไว้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น เขาเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยมากที่รู้เรื่องของเอสคาลัส
ความเป็นมาที่แท้จริงของมองตากิวมีเพียงติบอลท์เท่านั้นที่รู้และเขาได้เล่าให้จูเลียตฟัง มองตากิวนั้นเป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งกับชายในตระกูลคาปูเล็ต ก่อนสิ้นใจมารดาของเขาได้บอกความปรารถนาว่าอยากให้ลาเออร์เทสได้อยู่อย่างชนชั้นสูง เมื่อเขาได้รับรู้ก็เคียดแค้นตระกูลคาปูเล็ตและมุ่งมาดจะยึดอำนาจเจ้าเมืองเป็นของตนให้ได้ ในช่วงนั้นเองที่เขาได้ไปอยู่ในการดูแลของตระกูลมองตากิว เมื่อเติบโตขึ้นเขาก็วางยาพิษในอาหารของผู้ที่ชุบเลี้ยงมาและกลายเป็นหัวหน้าตระกูล มองตากิวได้พบมารดาของติบอลท์และหลอกนางเพื่อล้วงข้อมูลของคาปูเล็ตและเอสคาลัส ก่อนจะทิ้งนางไปสมรสกับเลดี้พอร์เทียมารดาของโรมิโอ
หลังจากมองตากิวรู้ว่าบุตรชายมีใจให้จูเลียต มองตากิวก็เนรเทศโรมิโอไปยังเหมืองแกรนเดีย และรับเมอร์คิวชิโอมาเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนจะสังหารไททัสโดยจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ
ในตอนท้าย มองตากิวได้ต่อสู้กับติบอลท์และโรมิโอ และเมื่อปักดาบลงหน้าจูเลียตแล้วก็ถูกเมอร์คิวชิโอใช้ดาบแทงจากด้านหลัง
พอร์เทีย (ญี่ปุ่น
ポーシアโรมาจิLady Portia)
มารดาของโรมิโอ หนีไปอยู่ที่สำนักแม่ชีตั้งแต่โรมิโอยังเด็ก เพราะไม่อยากมีส่วนร่วมในความทะเยอทะยานของสามี เนื่องจากเธอเป็นสตรีที่อ่อนโยนและมีสติปัญญา เธอเป็นคนเดียวที่ยิ้มต้อนรับโรมิโอเสมอ โรมิโอจึงมักมาเยี่ยมเธอบ่อยๆ
พอร์เทียเป็นคนยืนยันว่าจูเลียตเป็นบุตรีของคาปูเล็ตและบอกให้โรมิโอลืมเธอเสีย แต่โรมิโอทำไม่ได้ เธอยังช่วยดูแลจูเลียตที่บาดเจ็บหลังถูกทหารของมองตากิวรุกรานอีกด้วย ในตอนท้ายเมื่อโรมิโอจะไปหามองตากิว โรมิโอก็ได้มาขอโทษเธอด้วย

กลุ่มพันธมิตรมองตากิว

[แก้]
เบนโวลิโอ (ญี่ปุ่น
ペンヴォーリオโรมาจิBenvolio)
เพื่อนของโรมิโอ เป็นบุตรชายนายกเทศมนตรีเนโอเวโรนา เป็นห่วงโรมิโอเสมอ ภายหลังถูกลดชั้นเป็นเพียงคนธรรมดาและได้รับความช่วยเหลือจากจูเลียต จึงได้ใกล้คิดกับคอร์เดเลียและสมรสกันในภายหลัง
เมอร์คิวชิโอ (ญี่ปุ่น
マキューシオโรมาจิMercutio)
ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ชอบดูถูกคนธรรมดา ภายหลังได้เป็นบุตรบุญธรรมของมองตากิว เคารพยำเกรงมองตากิวมากแม้ว่าจะเห็นบิดาแท้ๆของตนถูกมองตากิวสังหารต่อหน้าต่อตา ในตอนท้ายเป็นผู้สังหารมองตากิวและมีอาการผิดปกติทางจิต
ไททัส (ญี่ปุ่น
タイタスโรมาจิTitus)
บิดาแท้ๆของเมอร์คิวชิโอ ถูกมองตากิวสังหาร และจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ
วิตโตลิโอ (ญี่ปุ่น
グィシトーリオโรมาจิVittorio)
บิดาของเบนโวลิโอ หัวหน้าตระกูลเฟรสโกบัลดิ (Frescobaldi) เป็นเพื่อนเก่าของคอนราด ถูกลดชั้นเป็นคนธรรมดาและถูกลอบสังหารแต่ไม่สำเร็จ
เฮอร์ไมโอนี (ญี่ปุ่น
ハーマイオニโรมาจิHermione)
สตรีในตระกูลสูงที่หมั้นหมายกับโรมิโอเพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง แต่เธอรักโรมิโอจากใจจริงแม้รู้ว่าโรมิโอมีคนอื่นอยู่ในใจแล้วก็ตาม เมื่อโรมิโอถูกเนรเทศ เฮอร์ไมโอนีพยายามเกลี้ยกล่อมมองตากิวให้เรียกเขากลับมายังเนโอเวโรนา แต่เมื่อถูกปฏิเสธ เธอก็ออกไปตามหาโรมิโอเอง และได้พบกับจูเลียต เฮอร์ไมโอนีอิจฉาและพยายามทำร้ายจูเลียต แต่เมื่อจูเลียตร้องไห้แสดงอาการดีใจเมื่อรู้ว่าโรมิโอปลอดภัยดี เฮอร์ไมโอนีก็สงบลง ในตอนจบเธอยืนถือดอกกุหลาบและดอกไอริส และภาวนาให้ตนเองมีความสุขเหมือนโรมิโอและจูเลียตบ้าง

ตัวละครอื่นๆ

[แก้]
โอฟีเลีย (ญี่ปุ่น
オフィーリアโรมาจิOphelia)
โอฟีเลียเป็นสตรีลึกลับที่คอยดูแลเอสคาลัส มีหน้าตาเศร้าหมองและสัญลักษณ์บนใบหน้า เป็นคนบอกจูเลียตว่าเอสคาลัสต้องการพลังของคาปูเล็ต ซึ่งอันที่จริงแล้ว โอฟีเลียเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ต้นนี้นั่นเอง ในตอนท้ายเธอเป็นคนทำให้โรมิโอบาดเจ็บสาหัสและถูกกำจัดโดยโรมิโอ
คามิโอ (ญี่ปุ่น
カミロโรมาจิCamilo)
สหายของคอนราดที่ทรยศโดยการบอกที่ซ่อนของคาปูเล็ตให้กับมองตากิว เป็นคนที่รับดูแลติบอลท์
เพทรูคิโอ (ญี่ปุ่น
ペトルーキオโรมาจิPetruchio)
เด็กชายในเหมืองที่โรมิโอไปช่วยงาน เป็นเพื่อนที่ดีต่อโรมิโอ ถูกส่งไปที่เหมืองเพราะขโมยขนมปังไปช่วยครอบครัว เสียชีวิตจากอาการป่วยและฝากฝังโรมิโอให้ช่วยดูแลน้องๆด้วย ซึ่งโรมิโอได้ฝากฝังติบอลท์อีกทีหนึ่ง
โจวานนี่ (ญี่ปุ่น
ジョバンニโรมาจิGiovanni)
คนงานในเหมือง ร่างกายกำยำ ชื่นชมความฝันของโรมิโอที่จะสร้างสถานที่ที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข
ชายแก่ปริศนา
ชายแก่ลึกลับที่ชอบสูบไปป์ น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับต้นไม้ใหญ่ โรมิโอและจูเลียตได้พบกับเขาครั้งแรกที่หมู่บ้านร้าง และโรมิโอพบเขาอีกครั้งในช่วงที่กำลังฟื้นฟูหมู่บ้าน มอบเมล็ดพืชให้แก่โรมิโอ และทิ้งคำพูดปริศนาไว้

ศัพท์เฉพาะ

[แก้]
เนโอเวโรนา (ญี่ปุ่น
ネオ・ヴェローナโรมาจิNeo Verona)
นครลอยฟ้าที่เป็นสถานที่ของเรื่องทั้งหมด ในตอนจบได้ร่วงหล่นสู่ผิวมหาสมุทรและผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
ริวบะ (ญี่ปุ่น
竜馬โรมาจิDragon Horse)
ม้ามีปีกและมีหางเหมือนมังกร คล้ายๆกับเพกาซัส เป็นพาหนะสำหรับชนชั้นสูง ริวบะของโรมิโอมีชื่อว่าชิเอโล
เอสคาลัส (ญี่ปุ่น
大樹エスカラスโรมาจิGreat Tree Escalus)
ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกซ่อนอยู่ในปราสาทของมองตากิว ชื่อนี้น่าจะมาจากบทละครเรื่องเจ้าชายเอสคาลัสของเชกสเปียร์ เอสคาลัสนี้ดูแลโดยโอฟีเลีย ซึ่งเอสคาลัสจะอวยพรให้มวลมนุษย์แต่พลังจะอ่อนแอลงถ้ามนุษย์ไม่มีความรักในจิตใจ เมื่อมีพลังเต็มเปี่ยมจะให้ผลสีทองเรืองรอง เอสคาลัสเริ่มเหี่ยวแห้งเมื่อตกอยู่ในมือของมองตากิว
เดิมทีต้นไม้ที่ปกป้องเนโอเวโรนานั้นมีสองต้น แต่อีกต้นหนึ่งถูกทำลายไปแล้วด้วยความโลภและความโหดร้ายของมนุษย์ เหลือเพียงเอสคาลัสที่กำลังจะตายเท่านั้นคอยดูแลมวลมนุษย์ จึงต้องอาศัยพลังของจูเลียตในการฟื้นฟูเอสคาลัสขึ้นมา
คาราบินีรี่ (ญี่ปุ่น
カラビニエリโรมาจิCarabinieri)
เป็นภาษาอิตาเลียน หมายถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจของเนโอเวโรนา

รายชื่อตอน

[แก้]

เพลงประกอบ

[แก้]

ดนตรีประกอบทั้งเรื่องถูกประพันธุ์โดยฮิโตชิ ซากิโมโตถูกแสดงโดยวงดุริยางค์ซิมโฟนีแห่งเอมิเนนซ์

เพลงเปิด
  • อิโนริ ~You Raise Me Up~ (祈り~You Raise Me Up~)
    • ขับร้อง : ลีน่า ปาร์ค
    • เนื้อร้องเดิม: เบรนแดน เกรแฮม
    • ทำนองเดิม: รูล์ฟ โลฟแลนด์
    • เนื้อร้องภาษาญี่ปุ่น: ไคโตะ โอคะจิมะจิ
    • เรียบเรียง: มาซายูคิ ซาคาโมโตะ, ซะโตชิ ทาเคะเบะ
เพลงปิด
  • ไซโคลน (サイクロン ; Cyclone)
    • ขับร้อง: 12012
    • เนื้อร้อง: วาตารุ มิยาวะคิ
    • ทำนอง: ฮิโระอะคิ ซะคะอิ
    • เรียบเรียง: 12012
  • Good Bye, Yesterday
    • ขับร้อง: Mizrock
    • ผู้แต่งเดิม: แซนดรา นอร์ดสตอร์ม, โธมัส วอห์นี
    • เรียบเรียง: โทโมคิ อิชิซุกะ

โรมิโอ x จูเลียตในแบบอื่นๆ

[แก้]

หนังสือการ์ตูน

[แก้]
โรมิโอ x จูเลียต ฉบับหนังสือการ์ตูน เล่ม1

โรมิโอ x จูเลียตฉบับหนังสือการ์ตูนตีพิมพ์ลงในอะสุกะรายเดือนของสำนักพิมพ์คาโดะคะวะ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2550

  • ภาพ : COM
  • เนื้อเรื่องดั้งเดิม : วิลเลียม เชกสเปียร์
  • ผลงานแอนิเมชันดั้งเดิม :กอนโซ
  • จัดวางองค์ประกอบใหม่ : ฮิโตะมิ อามะมิยะ

นิยาย

[แก้]

โรมิโอ x จูเลียต ฉบับนิยายใช้ชื่อว่า "โรมิโอ x จูเลียต อะคะคิ อุนเม โนะ เดะไอ" (ญี่ปุ่น: Romeo×Juliet 赤き運命の出逢いโรมาจิRomio x Jurietto Akaki Unmei no Deai) ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2550 โดยคาโดคาวะบีนส์บุงโกะ ในเครือสำนักพิมพ์คาโดคาวะ

  • เนื้อเรื่อง : ฮิโตะมิ อามะมิยะ
  • ภาพ : COM
  • เนื้อเรื่องดั้งเดิม : วิลเลียม เชกสเปียร์
  • ผลงานแอนิเมชันดั้งเดิม :กอนโซ

รายการวิทยุ

[แก้]

โรมิโอ x จูเลียตในรูปแบบเน็ตเรดิโอ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550 โดยมีชื่อเรียกว่า "โรมิจูลิเรดิโอ" (ญี่ปุ่น: ロミジュリ×レイディオโรมาจิRomijuri×Reidio ทับศัพท์จาก Romejuli×Radio) โดยมีนักพากย์ผู้ให้เสียงเป็นจูเลียต คุณฟุมิเอะ มิซุซาวะ และผู้ให้เสียงเป็นคอร์เดเลีย คุณมิยุ มัทซึกิ เป็นผู้ดำเนินรายการ

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]