เบอร์เซิร์ก
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เบอร์เซิร์ก (Berserk) | |
ベルセルク (Beruseruku) | |
---|---|
แนว | แอ็คชั่น, ดาร์ก แฟนตาซี, โศกนาฏกรรม, สยองขวัญแฝงปรัชญา |
มังงะ | |
เขียนโดย | เค็นตาโร มิอูระ |
สำนักพิมพ์ | ฮะคุเซ็นฉะ อินคอโพเรท แขวงชิโยะดะ, โตเกียว |
สำนักพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษ | |
นิตยสาร | แอนิมอล เฮาส์ (พ.ศ. 2532―2535) ยัง แอนิมอล (พ.ศ. 2535–ปัจจุบัน) (เปลี่ยนชื่อมาจากแอนิมอล เฮาส์) นีออซ (ในประเทศไทย) (พ.ศ. 2542 - นิตยสารเลิกตีพิมพ์ พ.ศ. 2558) |
กลุ่มเป้าหมาย | เซเน็ง |
วางจำหน่ายตั้งแต่ | 25 สิงหาคม พ.ศ. 2532 – ปัจจุบัน |
จำนวนเล่ม | 41 |
อนิเมะ (ทีวีซีรีส์) | |
| |
ภาพยนตร์อนิเมะ | |
|
เบอร์เซิร์ก (ญี่ปุ่น: ベルセルク; โรมาจิ: Beruseruku; อังกฤษ: Berserk) เป็นชื่อมังงะ แนวดาร์ก แฟนตาซี ของญี่ปุ่น วาดโดยเค็นตาโร มิอูระ มีการดำเนินเรื่องเกิดขึ้นในยุคกลางของยุโรป โดยได้รับอิทธิพลมาจากโลกแห่งจินตนิมิตด้านมืด มีตัวละครเอกของเรื่องคือ กัทส์ ทหารรับจ้างผู้โดดเดี่ยวและ กริฟฟิท หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อ กองพันเหยี่ยว
เนื้อเรื่องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความโดดเดี่ยวของมนุษย์ , ความสัมพันธ์ในเชิงของมิตรภาพ และเต็มไปด้วยการตั้งคำถามเกี่ยวกับมนุษยธรรม รวมถึงประเด็นเรื่องปีศาจและการต่อต้านพระเจ้า นอกจากนี้ยังสื่อให้เห็นถึงธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ทั้งในด้านที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุด
เบอร์เซิร์กได้ชื่อว่าเป็นหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่เนื้อหาและภาพมีความรุนแรงสูง รวมถึงมีลายเส้นของภาพที่มีความละเอียดเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ได้รับความนิยมและมียอดขายมากอันดับต้นๆเช่นกัน ในประเทศญี่ปุ่นลงตีพิมพ์ในนิตยสารยัง แอนิมอล โดยสำนักพิมพ์ฮะคุเซนชะ ส่วนในประเทศไทยมีการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ซึ่งได้ตีพิมพ์จนถึงฉบับรวมเล่มที่ 37 ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 ทางสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจได้ประกาศหยุดตีพิมพ์หนังสือในเครือฮะคุเซนชะ ทำให้บริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ได้เข้าถือครองลิขสิทธิ์การตีพิมพ์เรื่องเบอร์เซิร์กฉบับภาษาไทยในปัจจุบัน โดยมีการตีพิมพ์ซ้ำตั้งแต่เล่ม 1 - 37 และ เล่มที่ 38 เป็นต้นไป ส่วนฉบับอนิเมะได้ลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายโดย TIGA
นอกจากนี้ยังมีการแปลและตีพิมพ์จัดจำหน่ายในอีกหลายประเทศเช่นสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, สเปน, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, อิตาลี, เยอรมัน, บราซิล, เม็กซิโก และเกาหลีใต้
เนื้อเรื่อง
[แก้]นักดาบดำ และ ตราประทับ
[แก้]เนื้อเรื่องเปิดตัว กัทส์ (Guts) นักดาบดำที่มีดาบขนาดมหึมา ตาขวาบอด มีแขนซ้ายเทียมทำด้วยเหล็ก และมีรอยตีตราประทับอยู่ที่ต้นคอ ได้ออกเดินทางตามหา "ก็อดแฮนด์" ทั้ง 5 ซึ่งเป็นเจ้าแห่งสาวกปีศาจทั้งปวง โดยกัทส์ได้เดินทางมาถึงเมืองๆหนึ่ง ที่ถูกครอบงำโดย "ปราสาทโคกะ (Koka Castle)" โดยเจ้าเมืองจะต้องส่งเครื่องบรรณาการทั้งทอง อาหาร รวมทั้งผู้หญิงและเด็กไปเป็นเครื่องสังเวยในปราสาทโคกะ เพื่อแลกกับการที่เมืองจะรอดพ้นจากการถูกทำลาย
ที่เมืองแห่งนี้กัทส์ได้ช่วยเอลฟ์ที่ชื่อ พัค (Puck) ให้รอดพ้นจากอันตราย พัคจึงได้ติดตามและออกเดินทางร่วมกับกัทส์ไปนับแต่นั้นเป็นต้นมา
กัทส์ ได้ต่อสู้กับเจ้าแห่งปราสาทโคกะ ซึ่งแท้จริงก็เป็นหนึ่งในสาวกของปีศาจ โดยกัทส์สามารถเอาชนะเจ้าแห่งปราสาทโคกะที่อยู่ในร่างของปีศาจงูได้ และออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
ต่อมาเนื้อเรื่องได้กล่าวถึงรอยประทับที่ต้นคอของกัทส์ โดยรอยประทับตีตราดังกล่าวเป็นรอยประทับของผู้ที่เป็น "เหยื่อสังเวย" ผู้ที่ถูกตีตราต้องกลายเป็นอาหารของปีศาจ และจะถูกตามล่าโดยสาวกปีศาจทั้งหลาย กัทส์ที่มีรอยประทับตีตราอยู่ที่ต้นคอจึงถูกสาวกปีศาจตามล่าอยู่ตลอดเวลา แต่ก็สามารถต่อสู้เอาชีวิตรอดมาได้
เทวดาผู้พิทักษ์แห่งความโลภ
[แก้]กัทส์ ได้เดินทางมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง ที่ถูกปกครองด้วยความหวาดกลัวจากเคานต์ ที่มุ่งกำจัดพวกนอกรีต และประหารชีวิตคนไปอย่างมากมาย กัทส์ถูกตามล่าโดยทหารของเคานต์ และได้รับการช่วยเหลือจาก "วาร์กัส (Vargas)" ชายพิการซึ่งเป็นอดีตหมอหลวงประจำปราสาท
ยุคทองคำ
[แก้]แม่ของกัทส์ถูกจับแขวนคอตายทั้งกลมขณะตั้งท้องกัทส์ แต่กัทส์ก็สามารถคลอดออกมาจากศพแม่ที่ถูกแขวนคอตายไปแล้วและยังสามารถเอาชีวิตรอดได้
กัทส์ ถูกเก็บมาเลี้ยงโดย ชีส หญิงเสียสติในกลุ่มของทหารรับจ้างที่บังเอิญผ่านทางมา ชีส ซึ่งเสียสติจากการแท้งลูก เมื่อพบกัทส์ที่รอดชีวิตโดยการคลอดออกมาจากศพแม่ จึงคิดเสมือนว่ากัทส์เป็นลูกของตนเอง ต่อมาชีสตายด้วยกาฬโรค แกมบิโนสามีของชีสจึงเลี้ยงดูกัทส์อย่างเข้มงวด รวมถึงฝึกวิชาดาบให้ เพื่อให้กัทส์ออกรบหาเงินตั้งแต่ยังเด็ก ถึงแม้กัทส์จะถูกเลี้ยงอย่างเข้มงวดและถูกดุด่าอยู่เสมอ แต่กัทส์กลับคิดว่า แกมบิโน เปรียบเสมือนพ่อแท้ๆของตนเอง
กัทส์ในวัยเด็กเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก โดโนแวน ซึ่งเป็นคนในกลุ่มทหารรับจ้างด้วยกัน โดยโดโนแวน บอกแก่กัทส์ว่า แกมบิโน เป็นคนขายกัทส์เพื่อแลกกับเงิน แต่ตัวกัทส์เองกลับไม่เชื่อ วันหนึ่งแกมบิโนเสียขาจากสนามรบ และกลายเป็นคนติดเหล้า ทุกคนในกองทหารก็คิดกันอยู่แล้วว่ากัทส์เป็นตัวกาลกีณีเพราะเก็บมาจากศพ พอมาแกมบิโนมาเสียขาอีก ทุกคนก็เริ่มไม่พอใจ แกมบิโนเองก็เกลียดกัทส์มาตั้งแต่แรกที่ฝึกให้เพราะต้องการให้หาเงิน
คืนนึ่งแกมบิโนที่กำลังเมามายได้บุกเข้าไปในห้องนอนหมายจะฆ่ากัทส์ แต่กัทส์ป้องกันตัวทันแต่พอรู้ตัวดาบก็ทะลุคอหอยของแกมบิโนไปแล้ว คนที่เข้ามาเห็นก็เข้าใจผิดคิดว่ากัทส์ลงมือฆ่าแกมบิโน กัทส์จึงหลบหนีจนตกเหวไป ข้างล่างมีฝูงหมาป่ากัทส์ดิ้นรนจนรอดมาได้ แต่ก็สลบไปโชคดีมีคนผ่านมาจึงช่วยกัทส์ไว้
4 ปีต่อมา กัทส์ยังคงเป็นทหารรับจ้าง แต่ว่าอยู่คนเดียวไม่มีกลุ่มพวก เค้าได้สร้างผลงานโดยการล้มคนที่เก่งที่สุดของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ กริฟฟิท (Griffith) ผู้นำกองพันเหยี่ยวสนใจตัวเขามากจึงช่วยให้มาร่วมด้วย กรีพีสเป็นผู้นำที่เก่งมาก ๆ ฝีมือดาบก็เหนือกว่ากัทส์ทำให้กัทส์ต้องยอมแพ้แล้วเป็นพวกด้วยในที่สุด กองพันเหยี่ยวเป็นกองทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงมาก ทุกคนล้วนมีฝีมือ มีแคสก้าเป็นรองแม่ทัพ และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกองพัน กองพันเหยี่ยวสร้างผลงานไว้มากมายจนเป็นที่พอพระทัยของกษัตริย์ ระหว่างการรบครั้งหนึ่งมีคนในตำนานที่ว่าไปที่สนามรบไหนที่นั่นจะมีแต่คนตายเกลื่อน และตำนานก็มีมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว คนก็ยังมีชีวิตอยู่ คือ นอส เฟอราตู ซ็อตต์ ขณะที่กัทส์กับกรีฟีสกำลังเสียท่า ซ็อตต์เห็นไข่จักรพรรดิที่ห้อยอยู่ที่คอของกรีฟีสก็ตกใจแล้วก็ล่าถอยไป พร้อมทิ้งคำพูดไว้กับกัทส์ว่า เมื่อใดที่ชายผู้นี้พบกับความสิ้นหวัง และหากเจ้ายังเป็นเพื่อนรักของชายคนนี้ล่ะก็ เจ้าจะพบจุดจบที่ไม่อาจเลี่ยงได้
การศึกครั้งสุดท้าย ที่ต้องรบกับศัตรูที่แข็งแกร่งยากจะรับมือกองทัพอัศวินแรดม่วงแห่งจูด้า แต่กองพันเหยี่ยวขอรับหน้าที่นี้ และสามารถชนะได้ ได้รับความดีความชอบใหญ่หลวง จนถึงบัดนี้กัทส์ที่รับหน้าที่เป็นกองหน้าในสนามรบตลอดฝีมือได้พัฒนาขึ้นมาก และอยากจะมายืนเคียงข้างกรีฟีสด้วยตนเอง จึงขอแยกตัวไป แต่การที่กัทส์จากไปนั้นทำให้กรีฟีสทำสิ่งที่ผิดมหันต์ โดยที่ไปมีสัมพันธ์กับเจ้าหญิงชาร์ลอต เพื่อหวังเป็นใหญ่ให้เร็วที่สุด แต่ถูกพระราชาจับได้และถูกนำตัวไปทรมาน กองพันเหยี่ยวจึงถูกไล่ล่า จึงต้องหนีไปทั้งที่ขาดผู้นำมีเพียงแคสก้าเท่านั้นที่คอยนำทัพ กัทส์ได้ข่าวจึงกลับมาช่วย รวมยอดฝีมือของกองทัพบุกเข้าไปช่วยกรีฟีสออกมา ถึงจะช่วยสำเร็จ แต่กรีฟีสที่ถูกทรมานอย่างหนัก ,ตัดเอ็นมือ ,ตัดเอ็นเท้า ,ถูกถลกหนัง และถูกตัดลิ้น ทำให้ไม่สามารถนำทัพหรือต่อสู้ได้อีก พระราชาส่งกลุ่มทหารโฉดมาไล่ล่ากองพันเหยี่ยว แต่หัวหน้าพวกมันนั้นแท้จริงแล้วเป็นปีศาจเหมือนซ็อตต กัทส์ต้านไว้ได้ในที่สุด แต่กรีฟีสสิ้นหวังถึงที่สุดหมายจะฆ่าตัวตาย แต่พอดีเจอกับเบเฮริทไข่จักรพรรดิ ที่น่าจะตกหายไปแล้วตอนถูกทรมาน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่จะเรียกเทวทูต และที่พิเศษกว่านั้นคือมันเป็นเบเฮริทสีแดง กรีฟีสคือคนที่จะไปเป็นเทวทูตคนที่ 5 กรีฟีสได้บูชายันกองพันเหยี่ยวทั้งหมด ทุกคนในกองพันเหยี่ยวถูกตีตราเครื่องสังเวยและเป็นเหยื่อแก่ปีศาจทั้งหลาย กรีฟิสได้ข่มขืนแคสก้าต่อหน้ากัทส์ ส่วนกัทส์ถูกทำให้ตาบอดข้างหนึ่ง และได้ตัดแขนซ้ายของตัวเองออก ก็อดแฮนด์จึงครบ 5 คน อัศวินกะโหลกผู้เป็นปฏิปักษ์กับปีศาจได้บุกเข้ามาช่วยกัทส์กับแคสก้า ซึ่งกัทส์ยังต่อสู้อยู่ แม้ว่าจะเหลือตัวคนเดียว
หลังจากหนีมาได้ แคสก้าก็เสียสติ และต่อจากนี้กัทส์ต้องใช้ชีวิตอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย รอยตีตราจะเรียกปีศาจมา นั่นหมายถึงกัทส์จะไม่ได้หลับยามค่ำคืนอีกต่อไป ทั้งสองพักอยู่ที่บ้านเกโด ช่างตีดาบฝีมือดี เดิมเกโดเป็นช่างในวังแต่ได้ตีดาบฆ่ามังกรขึ้นมาเป็นดาบที่ใหญ่มากๆ ดาบที่กัทส์เคยใช้ในสนามรบ ใหญ่และยาวกว่าดาบปกติ 3 เท่าแต่ดาบนี้ไม่น่าจะเรียกดาบมันใหญ่และยาวกว่าตัวกัทส์เสียอีก เป็นเหตุให้เกโดโดนไล่ออกจากวังเพราะไม่มีใครใช้ดาบนี้ได้ แต่กัทส์ใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วจึงออกเดินทางเพื่อปราบปีศาจและตามหาก็อตแฮน กับดาบเล่มนี้พร้อมด้วยแขนซ้ายที่เป็นแขนกลภายในติดปืนใหญ่ไว้ และต่อสู้เรื่อยมาจนได้พบกับแม่มดน้อยฝึกหัด และได้รับเกราะดำจากแม่มดฟลอร่า เกราะนี้อัศวินกะโหลกเคยใช้มาก่อน มันจะทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเจ็บปวดและลุยอย่างเดียว กัทส์ได้พรรคพวกเพิ่ม และออกเดินทางไปบ้านเกิดของแพ็คที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด
ตัวละคร
[แก้]รายชื่อตอน
[แก้]เพลงประกอบ
[แก้]- เพลงเปิด "Tell Me Why" ร้องโดยวง Penpals
- เพลงปิด ''Waiting So Long'' ร้องโดยวง Silver Fins
วิดีโอเกม
[แก้]เบอร์เซิร์กได้มีการนำมาทำเป็นวิดีโอเกมสำหรับ
- Sword of the Berserk: Guts' Rage (ベルセルク 千 帝国の鷹 (ミレニアム・ファルコン) 篇 ~喪失花 (わすれはな) の章~
- Berserk Millennium Falcon Arc ~Seimasenki no Sho~ (ベルセルク 千年帝国の鷹篇 ~聖魔戦記の章~)
- เพลงประกอบ