ยาค็อพ ฟุกเกอร์
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ยาค็อพ ฟุกเกอร์ | |
---|---|
ภาพเหมือนของยาค็อพ ฟุกเกอร์ วาดโดย อัลเบร็ชท์ ดือเรอร์ ค.ศ. 1518 (Staatsgalerie Altdeutsche Meister) เอาคส์บวร์ค | |
เกิด | 6 มีนาคม ค.ศ. 1459 เอาคส์บวร์ค จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
เสียชีวิต | 30 ธันวาคม ค.ศ. 1525 เอาคส์บวร์ค, จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | (66 ปี)
สุสาน | St. Anna's Church |
คู่สมรส | Sibylla Artzt |
บิดามารดา | ยาค็อพ ฟุกเกอร์ ผู้อาวุโส Barbara Bäsinger |
ญาติ | อันตอน ฟุกเกอร์ หลานชาย |
ยาค็อพ ฟุกเกอร์ ฟ็อน เดอ ลิลลี (เยอรมัน: Jakob Fugger von der Lilie; 6 มีนาคม ค.ศ. 1459 – 30 ธันวาคม ค.ศ. 1525) ที่รู้จักกันในนามยาค็อพผู้ร่ำรวย หรือบ้างเรียกว่า ยาค็อพที่ 2 เป็นพ่อค้า ผู้ประกอบการเหมืองแร่ และนายธนาคารชาวเยอรมันคนสำคัญ เขาเป็นทายาทของตระกูลฟุกเกอร์ที่เป็นพ่อค้าซึ่งตั้งอยู่ในเมืองจักรวรรดิผสมของเอาคส์บวร์ค ซึ่งเขาได้เกิดและต่อมายังได้รับการยกฐานะผ่านการแต่งงานกับแกรนด์แบร์กเกอร์แห่งเอาคส์บวร์ค (Großbürger zu Augsburg) ภายในเวลาไม่กี่ทศวรรษ เขาได้ขยายกิจการครอบครัวไปสู่ธุรกิจที่ดำเนินงานไปทั่วยุโรป เขาเริ่มเข้าศึกษาเมื่อมีอายุ 14 ปีในเมืองเวนิส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหลักของเขาจนถึง ค.ศ. 1487 ในขณะเดียวกัน เขาเป็นทั้งนักบวชและคอยดูแลเหล่านักบวชผู้ถือศีลกิตติมศักดิ์ (Prebendary) แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในอาราม ยาค็อพก็หาเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ของการลงทุนในตลาดเอเชียช่วงยุคแรก มูลค่าสุทธิของเขาตอนที่เขาได้เสียชีวิตลงซึ่งประมาณอยู่ที่ 2 ล้านกิลเดอร์ ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อประมาณอยู่ที่ 309 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (สกุลเงินดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2020) ในช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิตใน ค.ศ. 1525 ความมั่นคั่งส่วนตัวของฟุกเกอร์เทียบเท่ากับ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของยุโรป[a][1]
รากฐานของความมั่นคั่งของตระกูลส่วนใหญ่เกิดจากการค้าสิ่งทอผ้ากับอิตาลี บริษัทได้เติบโตอย่างรวดเร็วที่พี่ชายสองคนอย่างอูลริชและเกออร์คเป็นผู้บริหารกิจการและยาค็อพได้เริ่มต้นธุรกรรมทางธนาคารกับราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค เช่นเดียวกับสภาปกครองโรมัน และในขณะเดียวกันก็เริ่มต้นการทำเหมืองในทีโรล และตั้งแต่ ค.ศ. 1493 การสกัดแร่เงินและทองแดงในราชอาณาจักรโบฮีเมียและฮังการี ใน ค.ศ. 1525 พวกเขายังได้รับสิทธิ์ในการทำเหมืองปรอทและซินนาบาร์ในอัลมาเดน
ภายหลังปี ค.ศ. 1487 ยาค็อพ ฟุกเกอร์ เป็นหัวหน้าฝ่ายดำเนินงานของธุรกิจฟุกเกอร์โดยพฤตินัย ซึ่งในไม่ช้าก็เกือบที่จะผูกขาดในตลาดทองแดงของยุโรป[2] ทองแดงจากฮังการีถูกขนส่งลำเลียงผ่านทางแอนต์เวิร์ปสู่ลิสบอน และต่อจากนั้นก็ขนส่งทางเรือไปยังอินเดีย ยาค็อพ ฟุกเกอร์ยังให้การสนับสนุนในการเดินทางเพื่อการค้าเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวไปยังอินเดียที่เหล่าพ่อค้าชาวเยอรมันได้ให้ความร่วมมือ ในการเดินเรือของกองเรือโปรตุเกสไปยังชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย (ค.ศ. 1505-1506) รวมถึงการเดินทางเพื่อการค้าของเสปนไปยังหมู่เกาะมาลูกูซึ่งประสบความล้มเหลว
ด้วยการให้สนับสนุนแก่ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คในฐานะนายธนาคาร เขาได้มีอิทธิพลอย่างล้นหลามในการเมืองยุโรปในช่วงเวลาสมัยนั้น เขาได้ให้เงินทุนในการสนับสนุนต่อการเจริญพระชันษาของมัคซีมีลีอานที่ 1 และมีส่วนในการสนับสนุนอย่างมากในการคัดเลือกพระเจ้าชาร์ลที่ 1 แห่งสเปนให้เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ชาร์ลที่ 5 ยาค็อพ ฟุกเกอร์ยังได้ให้เงินทุนในการสนับสนุนต่อการอภิเษกสมรสซึ่งต่อมาได้ส่งผลทำให้ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คได้รับราชอาณาจักรโบฮีเมียและฮังการี
ยาค็อพ ฟุกเกอร์ได้รักษามรดกตกทอดและชื่อเสียงที่ยั่งยืนผ่านทางการวางรากฐานของเขาในเอาคส์บวร์ค โบสถ์น้อยที่ได้รับเงินทุนจากเขาและถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1509 ถึง ค.ศ. 1512 ซึ่งเป็นอาคารแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของเยอรมนีและมีหลุมฝังศพของเหล่าสามพี่น้องอย่างอูลริช เกออร์คและยาค็อพ ฟุกเกอร์ไรร์ (Fuggerei) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นโดยยาค็อพใน ค.ศ. 1521 เป็นอาคารที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงมีการใช้งานอยู่ ดาเมนฮอฟซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟุกเกอร์ฮอยเซอร์ (Fuggerhäuser) ในเอาคส์บวร์ค ซึ่งเป็นอาคารสายฆราวาสแห่งแรกในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1515
เมื่อเขาได้เสียชีวิตลงในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1525 ยาค็อพ ฟุกเกอร์ได้ยกมรดกให้แก่หลานชายของเขานามว่า อันตอน ฟุกเกอร์ บริษัทนั้นมีทรัพย์สินรวมทั้งหมดประมาณ 2,032,652 กิลเดอร์[3] เขาเป็นหนึ่งในชาวเยอรมันที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดและเป็นพลเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเอาคส์บวร์ค ด้วยความมั่นคั่งของเขาทำให้เขาได้รับฉายาว่า "ยาค็อพผู้ร่ำรวย"[4] ใน ค.ศ. 1967 รูปปั้นครึ่งตัวของเขาได้ถูกนำไปวางไว้ที่อนุสรณ์สถานวัลฮัลลา ซึ่งเป็น"หอแห่งเกียรติยศ" ใกล้กับเรเกินส์บวร์ค เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ชาวเยอรมันผู้ที่มีชื่อเสียงและได้รับการสรรเสริญยกย่อง
ช่วงชีวิต
[แก้]ภูมิหลัง การศึกษา และปีช่วงแรกในเวนิส
[แก้]ยาค็อพ ฟุกเกอร์เกิดเป็นบุตรชายคนที่สิบในเหล่าบุตรทั้งสิบเอ็ดคนของยาค็อพ ฟุกเกอร์ ผู้อาวุโส (ค.ศ. 1398–1469) และภรรยาของเขานามว่า บาร์บาร่า บาซินเงอร์ (ค.ศ. 1419–1497), ธิดาของมุนซ์ไมสเตอร์ ฟรานซ์ บาซินเงอร์ ตระกูลฟุกเกอร์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขาเองในฐานะพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จในเมืองแห่งนี้ ฮันส์ ฟุกเกอร์ ผู้เป็นปู่ของยาค็อพ ฟุกเกอร์ ผู้ร่ำรวย ได้เข้ามาอาศัยในเมืองเอาคส์บวร์คใน ค.ศ. 1367 กลายเป็นชาวเมืองผ่านทางการแต่งงานและได้รับความมั่นคั่งมหาศาลจากการค้าสิ่งทอผ้ากับอิตาลี ไม่กี่ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต บุตรชายของเขาอย่างยาค็อพ ฟุกเกอร์ ผู้อาวุโส เป็นหนึ่งในชาวเมืองที่ร่ำรวยที่สุดของเอาคส์บวร์ค[5]
พี่ชายคนโตสองคนของยาค็อพที่มีนามว่า อูลริช (ค.ศ. 1441–1510) และเกออร์ค (ค.ศ. 1453–1506) ได้สร้างรากฐานสำหรับการเติบโตของบริษัทในยุโรป ราวปี ค.ศ. 1470 พวกเขาได้ก่อตั้งโรงงานในเวนิสและเนือร์นแบร์ค ซึ่งเป็นศูนย์กลางการึ้าที่สำคัญ อันเดรสและฮันส์ผู้เป็นพี่ชายของยาค็อพ ฟุกเกอร์ซึ่งทั้งคู่ได้เสียชีวิตลงในเวนิส มาร์คัสผู้เป็นพี่ชายอีกคนได้เป็นนักบวชและตั้งแต่ ค.ศ. 1470 เป็นนักเขียนคนหนึ่งในสถานที่เก็บเอกสารของสมเด็จพระสันตะปาปา(papal chancery) ในกรุงโรมที่ซึ่งเขาได้เสียชีวิตลง ใน ค.ศ. 1478 พี่ชายของเขาอีกคนนามว่า ปีเตอร์ ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคระบาดในเนือร์นแบร์ค ใน ค.ศ. 1473[6][7]
เงินกู้ที่ได้มอบให้กับจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 และเสบียงที่ส่งมอบให้กับคณะผู้ติดตามของพระองค์โดยอูลริช ฟุกเกอร์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ตระกูลได้รับตราอาร์มที่เป็นสัญลักษณ์ดอกลิลลีใน ค.ศ. 1473 "ออฟ เดอะ ลิลลี่"(เยอรมัน: von der Lilie) เป็นชื่อที่ถูกเรียกตามสัญลักษณ์ตราอาร์มนี้ทำให้สายตระกูลของฟุกเกอร์แตกต่างจากสาขาตระกูลที่มีชื่อเรียกว่า "ออฟ เดอะ โด" (เยอรมัน: vom Reh)(ซึ่งแปลว่า กวางเพศเมีย)
จนถึงปี ค.ศ. 2009 นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า ยาค็อพ ฟุกเกอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะนักบวชผู้เยาว์ (minor order) เมื่อมีอายุได้ 12 ปี ซึ่งได้อาศัยอยู่ในฐานะแคนันในโบสถ์ที่ตั้งอยู่ในแฮรีเดิน เอกสารจากหอจดหมายเหตุแห่งรัฐออสเตรียได้แสดงให้เห็นว่า ยาค็อพ ฟุกเกอร์เป็นตัวแทนของธุรกิจครอบครัวของคนในเวนิส ใน ค.ศ. 1473 เมื่ออายุ 14 ปี งานวิจัยอื่น ๆ พบว่า ยาค็อพ ฟุกเกอร์ได้ใช้เวลาหลายปี ระหว่างปี ค.ศ. 1473 และ ค.ศ. 1487 โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ Fondaco dei Tedeschi ซึ่งเป็นบ้านของพ่อค้าชาวเยอรมันในเวนิส เวนิสเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในขณะนั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นสภาพแวดล้อมในอุดมคติสำหรับการศึกษาด้านการธนาคารและการค้าโลหะของยาค็อพ ฟุกเกอร์ การพักอาศัยอยู่อันยาวนานในอิตาลียังได้ช่วยในการนำรูปแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยามาสู่ภูมิภาคเยอรมัน ด้วยเงินทุนของเขาในการสร้างอาคารหลังแรกในรูปแบบนี้ซึ่งมีต้นกำเนิดในอิตาลี โครงสร้างทางกฎหมายและสถาปัตยกรรมของเวนิสก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อการระดมทุนของฟุกเกอร์ไรน์ ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายกับที่อยู่อาศัยทางสังคมของเวนิส
จุดเริ่มต้นของการขุดเหมืองแร่และการค้าโลหะ
[แก้]ยาค็อพ ฟุกเกอร์ได้วางรากฐานของธุรกิจทำเหมืองแร่ในซัลทซ์บวร์ค เขาได้ให้เงินกู้แก่เจ้าของเหมืองแร่เงินอิสระในภูเขาแอล์ปหินชนวนซัลทซ์บวร์ค ซึ่งมีความต้องการเงินทุนใหม่อย่างมั่นคง แทนที่จะได้รับเอกสารใบแจ้งหนี้ตามปกติ เขาเรียกร้องให้ "Kuxe" กลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักในเหมืองแร่และด้วยเหตุนี้จึงได้บังคับให้ผู้ดำเนินการเหมืองแร่ในพื้นที่แก๊สชไตน์และ Schladming ทำการขายแร่เงินโดยตรงให้กับตระกูลฟุกเกอร์ แทนที่จะเป็นพ่อค้าคนกลาง
ยาค็อพ ฟุกเกอร์เป็นผู้รับผิดชอบในธุรกิจของครอบครัวในเอาคส์บวร์ค ทีโรล เวนิส และโรม ราวปี ค.ศ. 1485 ครอบครัวยังได้ก่อตั้งโรงงานในอินส์บรุค(ตั้งแต่ ค.ศ. 1510 ใน Hall นับตั้งแต่ ค.ศ. 1538 ใน Schwaz) โดยการกู้ยืมเงินเพียงเล็กน้อย เขาได้เข้าหาเป็นคนแรกในการติดต่อกับอาร์ชดยุกซีกิสมุนด์ สมาชิกของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คซึ่งเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวในสิทธิ์ในทรัพย์สินของทีโรล ซึ่งได้รับอนุญาตสำหรับการทำเหมืองให้กับนักลงทุนเอกชน ซึ่งในทางกลับกันจะต้องจ่ายส่วนแบ่งกำไรของพวกเขาให้กับซีกิสมุนด์ แม้ว่าจะได้รับรายได้นี้ เขาก็ต้องประสบภาวะขาดเงินอย่างต่อเนื่องเพราะใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย มีบุตรนอกสมรสหลายคน และโครงการสิ่งก่อสร้างที่กว้างขวางของเขา ยาค็อพ ฟุกเกอร์เป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามด้วยจำนวน 100,000 กิลเดอร์ให้กับเวนิสในที่สุด ในปี ค.ศ. 1488 หนี้ทั้งหมดที่มีมากกว่า 150,000 กิลเดอร์ เป็นที่น่าสังเกตตรงที่รูปแบบการชำระเงิน แทนที่จะจ่ายให้แก่เฟือสท์โดยตรง ตระกูลฟุกเกอร์ได้จ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ เช่นเดียวกับการจ่ายค่าจ้างให้กับราชสำนักและช่างฝีมือ ใน ค.ศ. 1517 ตระกูลฟุกเกอร์ได้จัดหาเงินทุนมากกกว่าครึ่งหนึ่งของงบประมาณสาธารณะของทีโรล ด้วยเหตุนี้ บางครั้งพวกเขาก็มีสิทธิ์ได้รับแร่เงินและทองแดงทั้งหมดมาจากทีโรล
ความสัมพันธ์กับมัคซีมีลีอานที่ 1
[แก้]การขยายธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง แม้ว่าจะมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ทำกำไรอย่างมากกับมัคซีมีลีอานที่ 1 ซึ่งได้รับการส่งเสริมอย่างไม่ต้องสงสัยโดยยาค็อพ ในความเห็นของเขา ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คจะต้องก้าวขึ้นมามีอำนาจที่เหนือกว่าและราชวงศ์ภายในภูมิภาคเยอรมนี และดังนั้นจึงสมควรที่จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินและการเมืองของเขา ยาค็อพ ฟุกเกอร์ได้เข้าพบกับกษัตริย์ผู้วัยพระเยาว์ชาวโรมัน-เยอรมันเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 1489 ที่งานแสดงสินค้าแฟรงก์เฟิร์ต ในช่วงเวลานั้น แผนการของเขาสำหรับดัชชีแห่งทีโรลที่เป็นอิสระได้รับความเห็นด้วยกับ Johann Waldner ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีของกษัตริย์ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1490 ซีกิสมุนด์และเหล่าฐานันดร(estates) แห่งทีโรลได้ร่วมมือกับกษัตริย์มัคซีมีลีอานที่ 1 อีกด้วย อาร์ชดยุกต้องลาออกจากตำแหน่งภายใต้แรงกดดันจากเหล่าฐานันดร ซึ่งได้กล่าวหาว่าเขาดูแลบริหารจัดการที่ไม่ดี และทรัพย์สินของเขาได้ตกไปเป็นของกษัตริย์ มัคซีมีลีอานทรงให้คำมั่นสัญญาว่าจะชำระคืนเงินกู้ทั้งหมดให้กับยาค็อพ ฟุกเกอร์
ดังนั้นธุรกิจของตระกูลฟุกเกอร์จึงกลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนทางการเงินที่สำคัญที่สุดของมัคซีมีลีอาน ซึ่งนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 186 ทรงเป็นหนึ่งในผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ภายหลังจากจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 ผู้เป็นพระราชบิดาของพระองค์ทรงสวรรคตใน ค.ศ. 1493 พระองค์ทรงกลายเป็นจักรพรรดิที่มีอำนาจปกครองสูงสุด แม้ว่าจะมีปัญหาทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพราะการใช้วิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยและโครงการทางการเมืองอันล้มเหลวมากมาย ในรัชสมัยของพระองค์จะแสดงให้เห็นว่าราชวงศ์ฮาพส์บวร์คได้รับราชอาณาจักรสเปน โบฮีเมีย และฮังการี โดยไม่ใช่มาจากการทำสงคราม แต่มาจากการจัดเตรียมอภิเษกสมรสเพื่อผลประโยชน์ซึ่งได้รับทุนจากความช่วยเหลือของยาค็อพ ฟุกเกอร์
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1507 มัคซีมีลีอานที่ 1 ทรงขายเคาน์ตีแห่งเคียร์ชแบร์กซึ่งตั้งอยู่ที่อุล์ม อำนาจปกครองที่อยู่ติดกันของไวเซนฮอร์นกับเมืองที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับอำนาจปกครองของวูลเลนสเตทเทินและฟาฟเฟินโฮเฟิน (โรธ) จากดินแดนฮาพส์บวร์คในออสเตรียไกลออกไป(Further Austria) แก่ยาคอบ ฟุกเกอร์ มัคซีมีลีอานที่ 1 ทรงสวมมงกุฎด้วยพระองค์เองเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ. 1508 ทรงได้รับการจ่ายเงินจำนวน 50,000 กิลเดอร์สำหรับการขายเหล่านี้
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การขุดเหมืองแร่และการค้าโลหะ
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วาติกันในฐานะลูกค้า
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การค้าโพ้นทะเล
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วิกฤตครั้งใหญ่ของยาค็อพ ฟุกเกอร์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การคัดเลือกของชาร์ลที่ 5 ใน ค.ศ. 1519
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Steinmetz, Greg. "Opinion: 7 money-making lessons from the richest man who ever lived". MarketWatch (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-05-21.
- ↑ Peter Geffcken: Fugger – Geschichte einer Familie: "Die Handelsherren mit dem Dreizack". In: DAMALS 7/2004
- ↑ "Anton Fugger". Encyclopædia Britannica.
- ↑ "Jakob Fugger". The Wall Street Journal.
- ↑ Häberlein 2006, pp. 20–22
- ↑ Pölnitz 1999, pp. 44–46
- ↑ Häberlein 2006, pp. 34–35
- ↑ a.s, Petit Press (8 July 2002). "Mineral and political wealth of Banská Bystrica mining region has flown". spectator.sme.sk.
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน