Nothing Special   »   [go: up one dir, main page]

ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิหงอู่"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่
KengSiri (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 47: บรรทัด 47:


=== กำเนิดราชวงศ์หมิง ===
=== กำเนิดราชวงศ์หมิง ===
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 1910 (ค.ศ. 1367) จูหยวนจางยกทัพบุกถึงนครต้าตูเมืองหลวงของราชวงศ์หยวน จักรพรรดิซุ่นตี้เห็นเหลือกำลังที่จะรับมือจึงพาเหล่าพระญาติพระวงศ์และ[[ชาวมองโกล]]หนีออกนอกด่านไปอยู่ที่เมืองซ่างตู วันที่ 2 เดือน 8 จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเป่ยผิง ประกาศตั้งราชวงศ์ต้าหมิง สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ทรงพระนามว่าหมิงไท่จู่ (明太祖)ใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าหงอู่ หรือหงอู่(洪武)) เปลี่ยนชื่อเมืองอิ้งเทียนเป็นหนานจิงใช้เป็นเมืองหลวง นอกจากนั้นโปรดให้โอรสให้เป็นหวาง ([[อ๋อง]]) ไปครองเมืองต่าง ๆ เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ คือ ตั้งองค์ชายจูเพียวเป็นไท่จือ องค์ชายจูตี้เป็นเยียนหวางครองเมืองเป่ยผิง องค์ชายจูเฉวียนเป็นหนิงหวางครองเมืองต้าหนิง องค์ชายจูกุ้ยเป็นไต้หวางครองเมืองต้าถง องค์ชายจูกังเป็นจิ้นหวางครองเมืองไท่หยวน องค์ชายฝู่เป็นฉีหวางครองเมืองชิงโจว องค์ชายจูส่วงเป็นฉินหวางครองเมือง[[ซีอาน]] องค์ชายจูอิงเป็นซู่หวางครองเมืองกานซู
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม [[พ.ศ. 1910]] (ค.ศ. 1367) จูหยวนจางยกทัพบุกถึงนครต้าตูเมืองหลวงของราชวงศ์หยวน จักรพรรดิซุ่นตี้เห็นเหลือกำลังที่จะรับมือจึงพาเหล่าพระญาติพระวงศ์และ[[ชาวมองโกล]]หนีออกนอกด่านไปอยู่ที่เมืองซ่างตู วันที่ 2 เดือน 8 จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเป่ยผิง ประกาศตั้งราชวงศ์ต้าหมิง สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ทรงพระนามว่าหมิงไท่จู่ (明太祖)ใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าหงอู่ หรือหงอู่(洪武)) เปลี่ยนชื่อเมืองอิ้งเทียนเป็นหนานจิงใช้เป็นเมืองหลวง นอกจากนั้นโปรดให้โอรสให้เป็นหวาง ([[อ๋อง]]) ไปครองเมืองต่าง ๆ เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ คือ ตั้งองค์ชายจูเพียวเป็นไท่จือ องค์ชายจูตี้เป็นเยียนหวางครองเมืองเป่ยผิง องค์ชายจูเฉวียนเป็นหนิงหวางครองเมืองต้าหนิง องค์ชายจูกุ้ยเป็นไต้หวางครองเมืองต้าถง องค์ชายจูกังเป็นจิ้นหวางครองเมืองไท่หยวน องค์ชายฝู่เป็นฉีหวางครองเมืองชิงโจว องค์ชายจูส่วงเป็นฉินหวางครองเมือง[[ซีอาน]] องค์ชายจูอิงเป็นซู่หวางครองเมืองกานซู
หมิงไท่จู่ได้ดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ ผ่อนปรน แก่ประชากรส่วนใหญ่ และทรงศึกษาถึงความล้มเหลวของราชวงศ์ต่างๆ ในอดีตเห็นว่าภัยสำคัญเกิดจากการที่ขันทีเข้าแทรกแซงการบริหารราชการ จึงมีพระราชโองการให้จารึกแผ่นเหล็กประกาศห้ามขันทีเข้ายุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชการ ผู้ฝ่าฝืนกำหนดโทษประหารสถานเดียว นอกจากนั้นยังได้ลดบทบาทของอัคร[[เสนาบดี]]รวบอำนาจไว้ที่พระองค์ฎีกาและข้อราชการต่างๆ ต้องถวายถึงพระองค์โดยตรง อัครเสนาบดีเป็นเพียงผู้รับราชโองการไปดำเนินการ ในด้านทหารการเลื่อนลดปลดย้ายแม่ทัพนายกองก็ต้องผ่านการพิจารณาจากพระองค์โดยตรง นอกจากนั้นพระองค์ยังได้จัดตั้งจินอีเว่ย (กองกำลังทหารเกราะทอง)ให้เป็นกองกำลังพิเศษคอยถวายอารักขาและสอดแนมความเคลื่อนไหวของขุนนางและราษฎร เรียกได้ว่าพระองค์กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง
หมิงไท่จู่ได้ดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ ผ่อนปรน แก่ประชากรส่วนใหญ่ และทรงศึกษาถึงความล้มเหลวของราชวงศ์ต่างๆ ในอดีตเห็นว่าภัยสำคัญเกิดจากการที่ขันทีเข้าแทรกแซงการบริหารราชการ จึงมีพระราชโองการให้จารึกแผ่นเหล็กประกาศห้ามขันทีเข้ายุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชการ ผู้ฝ่าฝืนกำหนดโทษประหารสถานเดียว นอกจากนั้นยังได้ลดบทบาทของอัคร[[เสนาบดี]]รวบอำนาจไว้ที่พระองค์ฎีกาและข้อราชการต่างๆ ต้องถวายถึงพระองค์โดยตรง อัครเสนาบดีเป็นเพียงผู้รับราชโองการไปดำเนินการ ในด้านทหารการเลื่อนลดปลดย้ายแม่ทัพนายกองก็ต้องผ่านการพิจารณาจากพระองค์โดยตรง นอกจากนั้นพระองค์ยังได้จัดตั้งจินอีเว่ย (กองกำลังทหารเกราะทอง)ให้เป็นกองกำลังพิเศษคอยถวายอารักขาและสอดแนมความเคลื่อนไหวของขุนนางและราษฎร เรียกได้ว่าพระองค์กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง
บรรทัด 54: บรรทัด 54:


=== สวรรคต ===
=== สวรรคต ===
จักรพรรดิหงอู่ทรงครองราชย์นานถึง 30 ปี เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1941 (ค.ศ. 1398) พระชนม์ได้ 70 พรรษา พระศพได้รับการเชิญไปบรรจุไว้ที่สุสานเซี่ยวหลิง เชิงเขาจื่อจินซาน ชานกรุง[[หนานจิง]] ปิดฉากของมหาบุรุษที่มีชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง จากลูกชาวนายากจนได้เป็นจักรพรรดิปกครองแผ่นดินจีนที่ยิ่งใหญ่ไพศาล
จักรพรรดิหงอู่ทรงครองราชย์นานถึง 30 ปี เสด็จสวรรคตในปี [[พ.ศ. 1941]] (ค.ศ. 1398) พระชนม์ได้ 70 พรรษา พระศพได้รับการเชิญไปบรรจุไว้ที่สุสานเซี่ยวหลิง เชิงเขาจื่อจินซาน ชานกรุง[[หนานจิง]] ปิดฉากของมหาบุรุษที่มีชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง จากลูกชาวนายากจนได้เป็นจักรพรรดิปกครองแผ่นดินจีนที่ยิ่งใหญ่ไพศาล
{{สถานีย่อย2|ประเทศจีน}}
{{สถานีย่อย2|ประเทศจีน}}
{{คอมมอนส์|Hongwu Emperor}}
{{คอมมอนส์|Hongwu Emperor}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:32, 21 กรกฎาคม 2559

จักรพรรดิหงอู่
จักรพรรดิจีน
จักรพรรดิหงอู่
จักรพรรดิราชวงศ์หมิง
ครองราชย์23 January 1368 – 24 June 1398
ก่อนหน้าNone (dynasty founded)
ถัดไปจักรพรรดิเจี้ยนเหวิน
จักรพรรดิจีน
ครองราชย์23 January 1368 – 24 June 1398
ก่อนหน้าจักรพรรดิหยวนฮุ่ยจง
ถัดไปจักรพรรดิเจี้ยนเหวิน
ประสูติ21 ตุลาคม ค.ศ. 1328(1328-10-21)
Haozhou, Anhui, Yuan Dynasty
สวรรคต24 มิถุนายน ค.ศ. 1398(1398-06-24) (69 ปี)
Nanjing, Jiangsu, Ming Dynasty
ฝังพระศพMing Xiaoling Mausoleum, Nanjing
จักรพรรดินีจักรพรรดินีหม่า
พระราชบุตรZhu Biao
Zhu Shuang, Prince Min of Qin
Zhu Gang, Prince Gong of Jin
จูตี้
Zhu Xiao, Prince Ding of Zhou
Zhu Zhen, Prince Zhao of Chu
Zhu Fu, Prince of Qi
Zhu Zi, Prince of Tan
Zhu Qi, Prince of Zhao
Zhu Tan, Prince Huang of Lu
Zhu Chun, Prince Xian of Shu
Zhu Bai, Prince Xian of Xiang
Zhu Gui, Prince Jian of Dai
Zhu Ying, Prince Zhuang of Su
Zhu Zhi, Prince Jian of Liao
Zhu Zhan, Prince Jing of Qing
Zhu Quan, Prince Xian of Ning
Zhu Pian, Prince Zhuang of Min
Zhu Hui, Prince of Gu
Zhu Song, Prince Xian of Han
Zhu Mo, Prince Jian of Shen
Zhu Yin, Prince Hui of An
Zhu Jing, Prince Ding of Tang
Zhu Dong, Prince Jing of Ying
Zhu Yi, Prince Li of Yi
Zhu Nan
and 18 daughters
พระนามเต็ม
Family name: Zhū (朱)
Birth name: Chóngbā (重八)
Given name: Xingzong (興宗), later Yuánzhāng (元璋)
Courtesy name: Guóruì (國瑞)
รัชศก
Hóngwǔ (洪武) 23 January 1368 - 5 February 1399
พระนามเดิม
洪武帝
พระสมัญญานาม
จักรพรรดิ ไคเถียน ชิงเตา เจ้าจี Liji Dasheng Zhishen Renwen Yiwu Junde Chenggong Gao
開天行道肇紀立極大聖至神仁文義武俊德成功高皇帝
วัดประจำรัชกาล
หมิง ไทจู่
明太祖
ราชวงศ์ราชวงศ์หมิง
พระราชบิดาจูซื่อเจิน
พระราชมารดาเฉินสี

สมเด็จพระจักรพรรดิหงอู่ (จีน: 洪武帝; พินอิน: Hóngwǔ; 21 ตุลาคม พ.ศ. 1871 – 24 มิถุนายน พ.ศ. 1941) คือจักรพรรดิพระองค์แรกแห่งราชวงศ์หมิงของจีน

ประวัติ

วัยเยาว์

หมิงไท่จู่ จูหยวนจาง ((朱元璋)) เป็นพระนามเดิมของ จักรพรรดิหงอู่ ผู้สถาปนาราชวงศ์หมิงของจีน เกิดในครอบครัวชาวนาที่หมู่บ้านกูจวง ตำบลจงหลี อำเภอเหาโจว มณฑลอันฮุย เมื่อ พ.ศ. 1871 (ค.ศ. 1328) บิดามีชื่อว่า จูซื่อเจิน มารดามีชื่อว่า เฉินสี ในวันที่เขาเกิดนั้นมีเรื่องเล่าว่าพ่อไปตักน้ำได้พบผ้าแพรแดงผืนหนึ่งซึ่งคนในหมู่บ้านต่างเห็นว่าเป็นมงคลนิมิต จูซื่อเจินจึงตั้งชื่อบุตรชายคนนี้ว่าจูหยวนจาง แปลว่า แผ่นหยกชั้นเลิศ

ในปี พ.ศ. 1881(ค.ศ. 1338) เกิดโรคระบาดซ้ำเติมความแห้งแล้งที่มีติดต่อกันนานหลายปี จูซื่อเจินกับนางเฉินสีและพี่ชายคนโตจูจ้งซื่อได้เสียชีวิตลง เพื่อนบ้านที่พอมีฐานะเกิดความสงสารจึงแบ่งที่ดินให้ใช้ฝังศพคนทั้งสาม จากนั้นบุตรที่เหลือจึงแยกย้ายเร่ร่อนไปรับจ้างหาเลี้ยงชีพ จูหยวนจางจำต้องไปบวชเป็นเณรที่วัดหวางเจวี๋ยซื่อ แต่ภัยแล้งที่มีติดต่อกันอย่างยาวนานทำให้วัดเองประสบปัญหาไม่น้อย พระและเณรในวัดต่างต้องออกธุดงค์ไปเที่ยวภิกขาจารต่างถิ่นซึ่งรวมถึงเณรจูหยวนจางด้วยเช่นกัน จนถึง พ.ศ. 1891 จึงได้บวชเป็นพระแต่บวชได้เพียงสี่ปีก็สึกออกมาเนื่องจากในขณะนั้นเกิดขบวนการหลายกลุ่มขับไล่จักรวรรดิมองโกลออกไปจากแผ่นดินจีน จูหยวนจางจึงไปร่วมกับสาวกลัทธิบัวขาวก่อกบฏโพกผ้าแดงโค่นล้มราชวงศ์หยวนของกัวจื่อซิง (郭子兴) ซึ่งใช้เมืองเหาโจวเป็นที่มั่น

เริ่มการโจมตี

กัวจื่อซิงเห็นแววความสามารถของเขาจึงได้ยกหม่าชิวเซียงธิดาบุญธรรมให้เป็นภรรยา ในปี พ.ศ. 1895 จูหยวนจางปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งมีผลงานโดดเด่นกว่าผู้อื่นจึงได้รับเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วแต่ทำให้ถูกกัวจื่อซิงกับบุตรชายระแวงอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งกัวจื่อซิงจับเขาไปขังแต่หม่าชิงเซียงกับมารดาไปอ้อนวอนขอจึงได้รับการปล่อยตัว จูหยวนจางจึงตัดสินใจพาภรรยากลับไปอยู่ที่ตำบลจงหลีบ้านเกิดและได้ชักชวนเพื่อนในวัยเยาว์กับคนอื่นๆ จัดตั้งกองกำลังเป็นของตนเอง จาก 700 คนก็เพิ่มจำนวนมากกว่า 20,000 คนภายในระยะเวลา 2 ปี

  • พ.ศ. 1898 (ค.ศ. 1355) ฉีโจวหวางหรือกัวจื่อซิงพ่อตาของเขาสิ้นพระชนม์ลง บุตรชายทั้งสองไม่มีความสามารถพอ จูหยวนจางจึงได้ขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังแทน
  • พ.ศ. 1899 (ค.ศ. 1356) จูหยวนจางยกกำลังบุกเมืองจี้ซิงเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองอิ้งเทียน ( ปัจจุบันคือเมืองหนานจิง ) ใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการทยอยกำจัดกลุ่มอำนาจอื่นๆ ที่ตั้งตัวเป็นอิสระเช่นกัน พร้อมกับใช้คำสั่ง สามไม่ คือ ไม่เผาบ้าน ไม่ฆ่าคน ไม่ปล้นชิง ทำให้ชาวเมืองอื่นๆ ต่างพากันยินยอมอย่างง่ายดาย
  • พ.ศ. 1907 (ค.ศ. 1364) สถาปนาตนเองขึ้นเป็นอู่หวาง ปกครองดินแดนแถบใต้แม่น้ำฉางเจียง

กำเนิดราชวงศ์หมิง

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 1910 (ค.ศ. 1367) จูหยวนจางยกทัพบุกถึงนครต้าตูเมืองหลวงของราชวงศ์หยวน จักรพรรดิซุ่นตี้เห็นเหลือกำลังที่จะรับมือจึงพาเหล่าพระญาติพระวงศ์และชาวมองโกลหนีออกนอกด่านไปอยู่ที่เมืองซ่างตู วันที่ 2 เดือน 8 จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเป่ยผิง ประกาศตั้งราชวงศ์ต้าหมิง สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ทรงพระนามว่าหมิงไท่จู่ (明太祖)ใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าหงอู่ หรือหงอู่(洪武)) เปลี่ยนชื่อเมืองอิ้งเทียนเป็นหนานจิงใช้เป็นเมืองหลวง นอกจากนั้นโปรดให้โอรสให้เป็นหวาง (อ๋อง) ไปครองเมืองต่าง ๆ เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ คือ ตั้งองค์ชายจูเพียวเป็นไท่จือ องค์ชายจูตี้เป็นเยียนหวางครองเมืองเป่ยผิง องค์ชายจูเฉวียนเป็นหนิงหวางครองเมืองต้าหนิง องค์ชายจูกุ้ยเป็นไต้หวางครองเมืองต้าถง องค์ชายจูกังเป็นจิ้นหวางครองเมืองไท่หยวน องค์ชายฝู่เป็นฉีหวางครองเมืองชิงโจว องค์ชายจูส่วงเป็นฉินหวางครองเมืองซีอาน องค์ชายจูอิงเป็นซู่หวางครองเมืองกานซู

หมิงไท่จู่ได้ดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ ผ่อนปรน แก่ประชากรส่วนใหญ่ และทรงศึกษาถึงความล้มเหลวของราชวงศ์ต่างๆ ในอดีตเห็นว่าภัยสำคัญเกิดจากการที่ขันทีเข้าแทรกแซงการบริหารราชการ จึงมีพระราชโองการให้จารึกแผ่นเหล็กประกาศห้ามขันทีเข้ายุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชการ ผู้ฝ่าฝืนกำหนดโทษประหารสถานเดียว นอกจากนั้นยังได้ลดบทบาทของอัครเสนาบดีรวบอำนาจไว้ที่พระองค์ฎีกาและข้อราชการต่างๆ ต้องถวายถึงพระองค์โดยตรง อัครเสนาบดีเป็นเพียงผู้รับราชโองการไปดำเนินการ ในด้านทหารการเลื่อนลดปลดย้ายแม่ทัพนายกองก็ต้องผ่านการพิจารณาจากพระองค์โดยตรง นอกจากนั้นพระองค์ยังได้จัดตั้งจินอีเว่ย (กองกำลังทหารเกราะทอง)ให้เป็นกองกำลังพิเศษคอยถวายอารักขาและสอดแนมความเคลื่อนไหวของขุนนางและราษฎร เรียกได้ว่าพระองค์กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง

ในรัชกาลของพระองค์กล่าวกันว่าทรงประหารขุนนางทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องหากสงสัยว่าจะเป็นภัยต่อราชบัลลังก์กว่าห้าหมื่นคน โดยเฉพาะปลายรัชกาลหลังจากที่สถาปนาองค์ชายจูหยุนเหวิน(朱 允文)พระราชนัดดาเป็นไท่จือแทนองค์ชายจูเพียว (朱標) พระบิดาที่สิ้นพระชนม์ไปก่อน แม่ทัพหลายคนต้องถูกประหารเนื่องจากเกรงจะเป็นภัยในอนาคต ไม่เว้นแม้แต่แม่ทัพสีต๋าหรือฉีต๊ะผู้เคยออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพระองค์แต่การตัดสินพระทัยของพระองค์กลับส่งผลร้ายมาให้พระราชนัดดาอย่างแรง

สวรรคต

จักรพรรดิหงอู่ทรงครองราชย์นานถึง 30 ปี เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1941 (ค.ศ. 1398) พระชนม์ได้ 70 พรรษา พระศพได้รับการเชิญไปบรรจุไว้ที่สุสานเซี่ยวหลิง เชิงเขาจื่อจินซาน ชานกรุงหนานจิง ปิดฉากของมหาบุรุษที่มีชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง จากลูกชาวนายากจนได้เป็นจักรพรรดิปกครองแผ่นดินจีนที่ยิ่งใหญ่ไพศาล

ก่อนหน้า จักรพรรดิหงอู่ ถัดไป
จักรพรรดิหยวนฮุ่ยจง
ราชวงศ์หยวน
จักรพรรดิจีน
(พ.ศ. 1911 - พ.ศ. 1941)
จักรพรรดิเจี้ยนเหวิน